วิธีง่าย ๆ ในการเลือกเก้าอี้บาร์สูง

[totheworld]

           
เก้าอี้บาร์สูงอาจเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่หลายรู้จักและเคยได้ใช้งานตามบาร์ คาเฟ่ ร้านอาหาร หรือพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีการใช้เก้าอี้คู่กับโต๊ะตัวสูง แต่อย่างไรก็ตาม เก้าอี้แบบนี้ไม่ได้พบทั่วไปในทุกบ้านของคนไทย แต่เก้าอี้แบบนี้ก็มีประโยชน์และดีไซน์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร วางอยู่ตรงไหนก็ให้ความโมเดิร์น หากใครที่กำลังสนใจเลือกเก้าอี้แบบสูงไปตกแต่งบ้าน คอนโด ออฟฟิศ หรือร้านของตัวเอง ลองดูเคล็ดลับในการเลือกซื้อเก้าอี้บาร์สูงเหล่านี้ดูสิ
 

1. พนักพิง
           
สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อเก้าอี้บาร์ คือการพิจารณาว่าคุณต้องการเก้าอี้ตัวสูงแบบมีพนักพิงหรือไม่ เก้าอี้แบบไม่มีพนักพิงจะทำให้ห้องดูสะอาดตา โฉบเฉี่ยวขึ้น และใช้พื้นที่น้อยลง ซึ่งเป็นข้อดีเหมาะสำหรับในพื้นที่ขนาดเล็ก แต่อาจไม่พอดีหากคุณใช้เวลานั่งเก้าอี้เป็นเวลานาน ต่างจากเก้าอี้บาร์สูงที่มีพนักพิง เป็นทางเลือกที่เหมาะสมในแง่ของความสบาย นอกจากนี้ หากมีเด็กเล็กในบ้าน การมีเก้าอี้ที่มีพนักพิงอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับเพิ่มความปลอดภัยให้แก่เด็ก ๆ
 

2. ความสูง
           

ความสูงของเก้าอี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อ ว่าคุณวางเก้าอี้ไว้คู่กับโต๊ะหรือเคาน์เตอร์แบบไหน ความสูงเท่าไหร่ ซึ่งเก้าอี้สตูลสูงและเก้าอี้เคาน์เตอร์มีความสูงต่างกัน สำหรับเก้าอี้สตูลสูง ความสูงจะพอดีกับเคาน์เตอร์ที่มีความสูง 36 นิ้ว ส่วนเก้าอี้บาร์สูงจะพอดีกับเคาน์เตอร์ที่มีความสูงประมาณ 42 นิ้ว อย่าลืมคำนึงถึงความสูงของที่วางแขนบนเก้าอี้บาร์ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถสอดเข้าไปใต้เคาน์เตอร์ได้โดยไม่มีที่วางแขนกีดขวาง



3. วัสดุ
           
วัสดุของเก้าอี้มีหลากหลาย ทั้งพลาสติก ไม้ เหล็ก ฯลฯ ควรเลือกซื้อจากความคงทน และดีไซน์ที่เหมาะกับสไตล์การแต่งห้อง เช่น หากคุณกำลังมองหาเก้าอี้กินข้าวที่ทำจากไม้ ให้พิจารณาพื้นผิวไม้อื่น ๆ ในห้องครัว (เช่น ตู้หรือพื้นไม้) แล้วจับคู่พื้นผิวและลวดลายไม้ที่ดูเหมือนกัน เพื่อให้ดูเป็นเนื้อเดียวกัน หรือเลือกไม้สีเข้มหรือสีอ่อนเพื่อให้ตัดกันมากขึ้น
 

สรุป
           
เก้าอี้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานในส่วนต่าง ๆ และช่วยตกแต่งห้องให้มีสไตล์ได้ โดยเฉพาะเก้าอี้บาร์สูงที่ดูทันสมัย วางไว้ตรงไหนก็ดูโมเดิร์น ไม่เชย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเก้าอี้แบบนี้จะโดดเด่นเรื่องรูปลักษณ์ แต่อย่าลืมคำนึงถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยของการใช้งานมาเป็นอันดับแรกอยู่เสมอ เพราะถึงจะสวยงามอย่างไร แต่หากใช้งานได้ไม่ดีหรือไม่สามารถใช้งานได้จริง ก็สิ้นเปลืองเนื้อที่ในห้องไปโดยเปล่าประโยชน์