ชวนเลี้ยงวัวนอก พัฒนาสายพันธุ์ผสม เพิ่มมูลค่าวัว

[Naprapats]

ประจวบคีรีขันธ์ ชวนเลี้ยงโคจำพวกต่างประเทศ พัฒนาสายพันธุ์เพิ่มมูลค่าหลักแสน แนะเลี้ยงดูได้ไม่ยากจะต้องใส่ใจ ไม่ให้วัวเครียด สร้างรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำยิ่งกว่า 1 แสนบาท

24 มี.ค. 66 – นายชำนาญย์ จรูญรุ่ง อายุ 46 ปี หรือ คนแก่หนึ่ง จรูญรุ่งฟาร์ม 999/1 หมู่ 2 บ้านหนองหูช้าง ตำบลเกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เล่าประสบการณ์การเลี้ยงวัวกว่า 20 ปี


เริ่มเลี้ยงเพียงแต่หนึ่งตัว มีเงินทุนจากเงินสิดใส่สมรสที่บิดามารดามอบให้ ปัจจุบันมีแม่พันธุ์โคสายพันธุ์ต่างประเทศจำนวน 5 ตัว ซึ่งแยกเลี้ยงในคอกเดียวที่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ อีก 50 ตัวที่เป็นวัวประเภทนอกผสมกับพันธุ์ท้องถิ่นที่เลี้ยงในสวน



โดยแม่โค 5 ตัว ราคาแพงกว่า 2 ล้านบาท เป็นจำพวก บราห์มัน อเมริกันบราห์มัน ฮินดูบราซิล ชาโรเลห์กล เป็นตัวที่แพงสูงสุดตัวละ 5 แสน จำนวน 2 ตัว ส่วนลูกโคอายุ 4-8 เดือน อีกสองตัวรอคอยจำหน่ายในราคา 2-3 แสนบาท


สำหรับแม่พันธุ์โครวมทั้งลูกวัวทั้ง 7 ตัวนี้ ปัจจัยที่จำต้องแยกออกมาเลี้ยงเป็นพิเศษ เพราะเป็นโคที่มีคุณลักษณะแม่พันธุ์ที่ดี ให้ลูกถี่ปีละหนึ่งตัว มีรูปร่างสมบูรณ์ จะต้องทำคอกไผ่แยกแต่ละแม่พันธุ์ กางมุ้งคุ้มครองแมลง ให้โครับประทานต้นหญ้าสด ฟางแห้ง เปลือกสับปะรดอบ

ในช่วงเช้าจะพาวัวไปเดินเที่ยวผ่อนคลาย รวมทั้งช่วงบ่ายอาบน้ำให้ ส่วนในคอกจะทำความสะอาด กวาดขี้วัวออกมาจากคอก ให้โคมีชีวิตชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และไม่เครียด ฉีดยาบำรุง ยาถ่ายพยาธิ ยาปากเท้าเปื่อยยุ่ย ยาลิมปิสกิน



"ที่ฟาร์มของผม เลี้ยงมากที่สุดในอำเภอเมือง ประสบผลสำเร็จสำหรับในการแพร่พันธุ์และราคาขาย ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัว วิธีการเลี้ยง ถ้าหากเป็นการเลี้ยงปลดปล่อยตามธรรมชาติจะควบคุมได้ยาก ไม่เจริญเติบโต ลูกบ้านถามเพราะอะไรถึงขายโคได้ตัวละแสนบาท มากยิ่งกว่าเกษตรกรรายอื่นขายได้ 3 หมื่นบาท"


ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ก็เลยทำเป็นศูนย์เรียนรู้ให้ลูกบ้านมาดูกรรมวิธีเลี้ยง ตนมิได้ปิดความลับอะไร กลเม็ดสำคัญสุด เป็นความตั้งใจ คนเลี้ยงควรจะมีใจรัก อย่าเลี้ยงตามกระแส ลองผิดลองถูก จำต้องดูการกระทำของโค ได้แก่ ตนเคยให้ข้าวโพดโม่ มันที่ใช้หมักเอธานอล ส่งผลให้โคทองอืด ของกินไม่ย่อย ก็เลยจำเป็นต้องเลิกให้"

สำหรับราคาการค้าขายวัวสายพันธุ์ต่างประเทศ ขึ้นกับความพึงพอใจของผู้ซื้อแล้วก็คนขาย ไม่มีการกำหนดคงที่ ส่วนแม่พันธุ์วัวนำเข้าจากต่างประเทศที่ราคาแพงสูง ขึ้นกับรางวัลที่โคประกวดชนะ ทุนภาษีรวมทั้งการขนส่ง ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นเท่าตัว อย่างเช่น วัวแม่พันธุ์ชาโรเรส์ที่ชนะเลิศการแข่งขันที่ประเทศเนเธอแลนด์ น้ำหนัก 1.4 ตัน ราคา 3 ล้านบาท ที่มีผู้เลี้ยงในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์


ด้วยเหตุนี้ส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาเลี้ยงวัวสายพันธุ์ผสม หรือสายพันธุ์นอกมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะลักษณะโคตัวใหญ่ เนื้อเยอะแยะ ได้ราคาขายได้กว่าโคประเภทพื้นบ้านไม่ต่ำยิ่งกว่าสองเท่า สร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงอย่างยั่งยืน เดี๋ยวนี้มีรายได้ไม่น้อยกว่าปีละ 1 ล้านบาท แต่หากช่วงไหนโคมีความพร้อมผสมพันธุ์และความสมบูรณ์ของร่างกาย จะขายลูกโคได้เดือนละตัว หรือขั้นต่ำ 2 แสนบาท

นายนิพล ทองเก่า อายุ 31 ปี เกษตรกรรายเล็ก ตำบลอ่าวน้อย ที่หันมาเลี้ยงวัวสายพันธุ์นอก เผยออกมาว่า ตนเองเลี้ยงโคพันธุ์พื้นเมืองมากมายว่าสิบปี จึงหันมาเลี้ยงวัวลูกผสม เป็นสายพันธุ์นอกที่ผสมกับสายพันธุ์ไทย ที่เหนือกว่าเรื่องทนต่อสภาพภูมิอากาศ ทนโรค โดยแรกเลี้ยงเพียงหนึ่งตัว ตอนนี้มีอยู่ 5 ตัว แล้วก็ลูกวัวอีก 2 ตัว

สำหรับในการเลี้ยงพันทางนั้น แพงไม่แพงจนกระทั่งเกินฐานะเกษตรกรรายย่อย แม้เลี้ยงโคที่เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศ 100% เงินลงทุนบิดามารดาประเภทหลายแสนบาท จึงค่อยๆเลี้ยงรวมทั้งขยายพันธุ์ตามความพร้อมเพรียง ในอนาคตจะขยับขยายไปเลี้ยงวัวสายพันธุ์นอก ด้วยเหตุว่าจำนวนตัวน้อยลงแต่มูลค่าเพิ่มขึ้น
วัวนอก
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13262/